หน้าเว็บ

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

งานกลุ่มวิดีโอ



งานกลุ่ม เรื่อง ดวงดาวบนท้องฟ้า ด้วยโปรแกรม Power Point
สมาชิกในกลุ่ม


                                            1.ด.ญ. ฐิติชญา  ไชยมงคล    ชั้น ม.3/7   เลขที่ 5
                                            2.ด.ญ. ภัคจิรา  ทานนท์         ชั้น ม.3/7   เลขที่ 20
                                            3.ด.ช. ชินดนัย  ปักการะโถ       ชั้น  ม.3/7    เลขที่ 47
                                            4.ด.ญ.อุมาวดี  ชานุชิตร        ชั้น ม.3/7    เลขที่ 50

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

งานนำเสนอ 1

ไฟล์ vedo ประกอบการเรียนการสอนในวิชาเทคโนโลยีสาระสนเทศเเละการสื่อสาร

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555


12 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันแม่แห่งชาติ ลูกๆทั้งหลายควรปฏิตนเป็นคนดี และระลึกถึงพระคุณความดีของแม่ ผู้ที่ให้กำเนิดและมีพระคุณต่อเราเป็นอย่างยิ่ง
คำอธิบาย: http://www.horolive.com/wordpress/wp-content/uploads/2011/07/mom5.jpg
ชาวอเมริกันเป็นผู้กำหนดให้มีวันแม่อย่างเป็นทางการขึ้น และผู้ที่พยายามเรียกร้องให้มีวันแม่ในอเมริกา คือ แอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย แต่กว่าเธอจะประสบความสำเร็จก็ครบ 2 ปีพอดีในปี ค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) โดยประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือดอกคาร์เนชั่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้าน หรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว
สำหรับในประเทศไทยนั้นมีการจัดงานวันแม่ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2486 ณ.สวนอัมพร โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้จัดงาน แต่เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไปโดยปริยาย หลังจากผ่านพ้นวิกฤติสงครามไปแล้ว หลายหน่วยงานได้พยายามรื้อฟื้นให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง แต่กำหนดวันแม่ที่ประชาชนนิยม และเป็นที่รับรองของรัฐบาล คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 กำหนดงานวันแม่ในวันนี้ยังดำเนินต่อมาอีกหลายปี ก็ต้องมาหยุดชะงักลงอีก ด้วยเหตุผลที่ว่าสภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน ซึ่งก็คือกระทรวงวัฒนธรรมที่ถูกยุบไปนั่นเอง
ต่อมาสมาคมครูคาทอลิก แห่งประเทศไทย เห็นว่าควรมีการจัดงานวันแม่ต่อไป จึงได้รื้อฟื้นงานวันแม่ขึ้นมาอีก และได้กำหนดให้จัดงานวันแม่ คือวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวก็เลิกไป จนกระทั่งในปี พ.ศ.2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เห็นว่าควรกำหนดวันแม่ให้แน่นอนเสียที จึงได้กำหนดวันแม่ใหม่โดยให้ถือว่าวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ และ กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ตั้งแต่นั้นมา
คำอธิบาย: http://www.horolive.com/wordpress/wp-content/uploads/2011/07/mom8.jpg
เหตุผลที่ให้ดอกมะลิ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ ก็เนื่องจาก ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย
นักภาษาศาสตร์ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า คำว่า แม่ของทุก ๆ ภาษา มาจากการออกเสียงของเด็ก โดยคำขึ้นต้นด้วยพยัญชนะริมฝีปากคู่ (Bilabial) ได้แก่ ม , , ,บ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นพยัญชนะชุดแรกที่เด็กสามารถทำเสียงได้ โดยการใช้ริมฝีปากบนและล่าง ดังเช่น

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
               วันสำคัญทางพระ พุทธศาสนา เป็นวันที่มีความสำคัญต่อชาวพุทธ การกำหนดวันสำคัญขึ้นมาก็เพื่อให้ชาวพุทธได้ตระหนักถึงความสำคัญ และได้เข้าร่วมกิจกรรม การเข้าร่วมกิจกรรมจะเกิดความสุข ความดี มีโอกาสได้บำเพ็ญบุญกุศล เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ได้แก่
วัน มาฆบูชา คือ การบูชาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันสำคัญเพราะมีเหตุการณ์สำคัญ 4 ประการ ที่เรียกว่า
จาตุรงคสันนิบาต เกิดขึ้น คือ
1. วันนี้เป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
2. พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวน 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
3. พระสงฆ์ที่มาประชุมล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้
4. พระสงฆ์เหล่านี้เป็นพระอรหันต์ และได้อภิญญา 6 ทั้งสิ้น                                 
ในโอกาสนี้ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งมีหลักการและสาระสำคัญ คือ ละความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องใส โดยทรงแสดงเป็น 3 ส่วน คือ
1. นิพพาน คือเป้าหมายสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนา
2. ทำอย่างไรจึงไปถึงเป้าหมายโดยไม่ทำความชั่วทั้งปวง
3. พุทธบริษัทจะต้องปฏิบัติซึ่งกันและกัน                                                        

หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องในวันมาฆบูชา
โอวาทปาติโมกข์ถือว่าเป็นหลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องในวันมาฆบูชา และเป็นหลักคำสอนที่เป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา ในโอวาทปาฏิโมกข์นอกจากระบุหลักการสำคัญของพระพุทธศาสนาดังกล่าวแล้วข้างต้น ยังสอนให้ชาวพุทธปฏิบัติตน ดังนี้
1. มีวาจาสุภาพ พูดจาไพเราะ ไม่ว่าร้าย ไม่โจมตีผู้อื่น
2. ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่นและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
3. สำรวม ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และประเพณี
4. รู้จักประมาณตน ถือความดี อย่าฟุ้งเฟ้อ
5. อยู่ในเสนาสนะในที่เงียบ ทำสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อการบำเพ็ญธรรม
6. บำเพ็ญเพียร ทำจิตใจให้ผ่องใส มีสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี
          กิจกรรม ที่ปฏิบัติในวันมาฆบูชา คือ การทำบุญตักบาตรในตอนเช้าหรือจัดอาหารคาวหวานไปทำบุญฟังเทศน์ที่วัด ตอนบ่ายฟังพระธรรมเทศนา ในตอนกลางคืนนำดอกไม้ ธูปเทียนไปที่วัด เพื่อชุมนุมกันทำพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ                  
วัน วิสาขบูชา คือ การบูชาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง คือ เป็นวัน ประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพาน
          จาก ความสำคัญดังกล่าว ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ แห่งองค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากล ของโลก                 
หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องใน วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ คือ ทรงเห็นแจ้งธรรม 4 หมวดที่เรียกว่า อริยสัจ 4 คือ 1. ทุกข์ 2. สมุทัย 3. นิโรธ 4. มรรค         
          กิจกรรมที่ ปฏิบัติในวันวิสาขบูชา คือการทำบุญตักบาตรตอนเช้า หรือจัดอาหารคาวหวานไปทำบุญฟังเทศน์ที่วัด ตอนบ่ายฟังพระแสดงธรรมเทศนา ในตอนกลางคืนนำดอกไม้ ธูปเทียนไปที่วัด เพื่อชุมชุนมกันเวียนเทียนรอบอุโบสถ                   
วันอา สาฬบูชา คือ การบูชาในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเป็นครั้งแรกที่เรียกว่า ปฐมเทศนา ผลของการแสดงปฐมเทศนา ทำให้มีพระสาวกองค์แรก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ซึ่งเป็น 1 ใน พระเบญจวัคคีย์ และทำให้พระรัตนตรัยครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์         
จากความสำคัญ ดังกล่าว เมื่อถึงวันอาสาฬหบูชา ชาวพุทธควรจัดพิธีบูชาและปฏิบัติตน ดังนี้
1. รำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ เพื่อให้เกิดเป็นบุญกุศล
2. ลด ละ เลิกอบายมุขและความชั่วทั้งหลาย
3. บำเพ็ญกุศล คือ คุณความดีต่าง ๆ เช่น ทำบุญตักบาตร รักษาศีล เป็นต้น
4. ชำระล้างจิตใจให้สะอาดปราศจากสิ่งเศร้าหมองด้วยเจริญภาวนา
5. นำดอกไม้ ธูปเทียน แต่งกายให้สะเอียดเรียบร้อย ไปวัดเวียนเทียน รำลึกถึงพระรัตนตรัย เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตน
           หลัก ธรรมที่เกี่ยวเนื่องในวันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่พระ พุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร หรือเรียกชื่อสั้น ๆ ว่า ธรรมจักร สาระสำคัญของธรรมจักรกล่าวถึงมัชฌิมาปฏิปทา คือ ทางสายกลางที่จะนำไปสู่การดับทุกข์หรือความเดือดร้อน ได้แก่ มรรคมีองค์ 8 ดังนี้
1. สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นชอบ            2. สัมมาสังกัปปะ  คือ ความดำริชอบ
3. สัมมาวาจา คือ การพูดชอบ         4. สัมมากัมมันตะ  คือ การกระทำชั่ว
5. สัมมาอาชีวะ คือ การเลี้ยงชีพชอบ     6. สัมมาวายมะ คือ ความเพียรชอบ
7. สัมมาสติ คือ ความระลึกชอบ            8. สัมมาสมาธิ คือ ตั้งจิตมั่นชอบ                  
          กิจกรรม ที่ปฏิบัติในวันอาสาฬหบูชา  โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา และสวดมนต์
วันอัฏฐ มีบูชา   คือการบูชาใน วันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 เป็นวันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า คือ เป็นวันที่มีการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ณ มกุฏพันธเจดีย์ เมืองกุสินารา
ดังนั้น เมื่อถึงวันนี้ชาวพุทธจึงได้ร่วมกันจัดพิธีบูชา โดยการละเว้นความชั่ว และทำความดีต่าง ๆ เช่นให้
ทานรักษาศีล เจริญภาวนา ฟังธรรม เป็นต้น  เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า
          หลัก ธรรมที่เกี่ยวเนื่องในวันอัฏฐมีบูชา
วันอัฏฐมีบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง จึงมีหลักธรรมที่เกี่ยวข้องมากมาย ดังตัวอย่างเช่น หลักธรรมเรื่องความไม่ประมาท
          ความ ไม่ประมาท คือ ความเป็นผู้มีสติอยู่ตลอดเวลา พระพุุุทธเจ้าได้ตรัสถึงคุณของความไม่ประมาทและโทษของความประมาทอยู่เสมอว่า ความไม่ประมาทเป็นทางไม่ตาย ความประมาทเป็นทางนำไปสู่ความตาย บุุคคลที่ไม่ประมาทย่อมไม่ตายส่วนผู้ที่ประมาทย่อมเป็นเสมือนผู้ที่ตายแล้ว
          วันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถัดจากวันอาสาฬหบูชา 1 วัน เป็นวันที่พระภิกษุทุกรูปต้องอธิษฐานอยู่ประจำที่ ไม่เที่ยวจาริกไปยังสถานที่ต่าง ๆ เว้นแต่กิจจำเป็นจริง ๆ ช่วงจำพรรษาอยู่ระหว่างฤดูฝน คือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี
          ความ สำคัญของวันเข้าพรรษา
1.  พระ ภิกษุจะหยุดจาริกไปยังสถานที่อื่น ๆ แต่จะอยู่ในวัดแห่งเดียวตามพุทธบัญญัติ
2. การที่พระภิกษุอยู่ประจำที่นาน ๆ ย่อมมีโอกาสได้สงเคราะห์กุุลบุตรที่ประสงค์จะอุปสมบทเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และสงเคราะห์พุทธบริษัททั่วไป
3. เป็นเทศกาลที่พุทธศาสนิกชนถือโอกาสปฏิญาณตนงดเว้นอบายมุขความชั่วต่าง ๆ  เช่น การดื่มสุรา สารเสพติด และการเที่ยวเตร่เฮฮา
หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องในวันเข้าพรรษา
1. สัมปัตตวิรัติ
2. สมาทานวิรัติ
3. สมุจเฉทวิรัติ
กิจกรรม ที่ปฏิบัติในวันเข้าพรรษา  การทำบุญตักบาตรในตอนเช้า ไปวัดฟังพระธรรมเทศนา ตามสถานที่ราชการ สถานศึกษา และที่วัด ควรจัดให้มีนิทรรศกาล การบรรยายธรรมเกี่ยวกับเรื่องราวประวัติความเป็นมาของวันเข้าพรรษา เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจทั่วไป
วันออก พรรษา คือ วันสิ้นสุดระยะการจำพรรษาหรือออกจากการอยู่ประจำที่ในฤดูฝนซึ่งตรงกับวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 วันออกพรรษาเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ วันมหาปวารณา ”เป็นวันที่เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ด้วยกันว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ในข้อผิดพลั้งล่วงเกินระหว่างที่จำพรรษาอยู่ด้วยกัน
ความ สำคัญของวันออกพรรษา
1. พระสงฆ์ได้รับพระพุทธานุญาตให้จาริกไปค้างแรมที่อื่นได้
2. พระสงฆ์นำความรู้จากหลักธรรมและประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างจำพรรษาไปเผยแผ่ แก่ประชาชน
3. ในวันนี้พระสงฆ์ได้ทำปวารณา เปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุด้วยกันว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ในเรื่องความประพฤติของตน เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ ความเคารพนับถือ และความสามัคคีระหว่างสงฆ์
4. พุทธศาสนิกชนได้นำแบบอย่างไปทำปวารณาเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือน ได้ เพื่อพัฒนาตนและสร้างสรรค์สังคมต่อไป
ประเพณีที่สำคัญในวันออกพรรษา คือ การตักบาตรเทโว ของที่นิยมนำไปตักบาตร คือ ข้าวต้มมัดไต้ และข้าวต้มลูกโยน การตักบาตรเทโวเป็นการระลึกถึงวันที่พระพุทธองค์เสด็จกลับจากการโปรดพระพุทธ มารดาในเทวโลก
หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติ
หลักการปวารณา การเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนกันได้ในฐานะที่เคยอยู่ร่วมกัน
1. ผู้ว่ากล่าวตักเตือน จะต้องเป็นผู้มีเมตตา ปรารถนาดีต่อผู้ที่ตนว่ากล่าวตักเตือน
2. ผู้ถูกว่ากล่าวตักเตือน ต้องมีใจกว้าง มองเห็นความปรารถนาดีของผู้ตักเตือน
การปวารณาเป็น คุณธรรมสร้างความสามัคคี และดำรงความบริสุทธิ์หมดจดแห่งพระพุทธศาสนาไว้
กิจกรรมที่ปฏิบัติในวันออกพรรษา
1. ทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ
2. ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา
3. ร่วมกุศลกรรม “ ตักบาตรเทโว ”
4. ปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาด ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ
          วัน ธรรมสวนะและเทศกาลสำคัญ  เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งบางวันก็เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า บางวันก็เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ และบางวันก็เกี่ยวข้องกับชาวพุทธทั่ว ๆ ไป ที่มีการทำกิจกรรมสืบต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณี
          วัน ธรรมสวนะ หมายถึง วันฟังธรรม ในปัจจุบันเรียกว่า วันพระ วันอุโบสถ เพราะมีการกำหนดวันไว้ 4 วัน คือ วันขึ้น 8 ค่ำ วันขึ้น 15 ค่ำ วันแรม 8 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ หรือ แรม 14 ค่ำ ในเดือนขาด  เป็นวันที่ทางวัดกำหนดไว้ให้ชาวบ้าน ไปประชุมสดับพระธรรมเทศนาหรือเรียกกันง่าย ๆ ว่า ไป “ ฟังเทศน์วันพระ ” วันนี้ทางศาสนาเรียกว่า วันอุโบสถซึ่งแปลว่า วันจำศีล ส่วนชาวบ้านเรียกว่า วันพระ      
หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องใน วันธรรมสวนะ
          วันธรรมสวนะ เป็นวันที่พระสงฆ์นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาเทศน์สอนประชาชนทั้งโดย ทางตรงและทางอ้อม เช่น ทางวิทยุกระจายเสียง ทางโทรทัศน์ เป็นต้น หลักธรรมที่ท่านนำมาเทศน์มีหลากหลาย เพราะหลักธรรมที่พระสงฆ์นำมาเทศน์ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการทำความดี ได้แก่ บุญ กิริยาวัตถุ 3 (1. ทานมัย  2. ศีลมัย 3.ภาวนามัย)ไตรสิกขา (1. ศีล 2. สมาธิ 3. ปัญญา)
          กิจกรรม ที่ควรปฏิบัติในวันธรรมสวนะ
ในวันธรรมสวนะนอกจากมีการฟังธรรม แล้ว ยังมีการทำบุญตักบาตร ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อทำจิตให้สะอาด สงบ และเกิดปัญญา จึงถือวันนี้ว่าเป็นวันหลักแห่งการทำความดี                       
เทศกาล สำคัญ  หมายถึง คราวสมัยที่กำหนดไว้เป็นประเพณีเพื่อการทำบุญและการรื่นเริงในท้องถิ่น สำหรับในประเทศไทยในปีหนึ่ง ๆ มีเทศกาลสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาหลายเทศกาล เช่น เทศกาลสงกรานต์  วันสารท   ทอด กฐิน ลอยกระทง เป็นต้น สำหรับในชั้นนี้นักเรียนจะได้ศึกษาเทศกาลสำคัญ 1 เทศกาล ได้แก่ ทอดกฐิน
          ประเพณีทอดกฐิน
          คำว่า ทอดกฐิน แปลว่า ไม้สะดึง คือกรอบไม้ชนิดหนึ่งสำหรับขึงผ้าให้ตึง สะดวกแก่การเย็บในสมัยโบราณเย็บผ้าต้องเอาไม้สะดึงมาขึงผ้าให้ตึงเสียก่อน แล้วจึงเย็บ เพราะช่างยังไม่มีความชำนาญเหมือนสมัยปัจจุบัน และเครื่องมือในการเย็บก็ยังไม่เพียงพอเหมือนจักรเย็บผ้าในปัจจุบัน การทำจีวรในสมัยโบราณ ถ้าภิกษุทำเองก็จัดเป็นงานเอิกเกริกทีเดียว
          เช่น ตำนาน กล่าวไว้ว่า การเย็บจีวรนั้น พระเถรานุเถระต่างมาช่วยกัน เป็นต้นว่า พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะ แม้สมเด็จพระบรมศาสดาก็เสด็จมาช่วย ภิกษุสามเณรอื่น ๆ ก็ช่วยขวนขวายในการเย็บจีวร อุบาสกอุบาสิกาก็จัดหาน้ำดื่มมาถวายพระภิกษุสงฆ์ มีองค์พระสัมมาสัมพุทธะเป็นประธาน โดยนัยนี้ การเย็บจีวรแม้โดยธรรมดาก็เป็นการต้องช่วยกันทำหลายรูป ผ้ากฐิน โดยความหมายก็คือ ผ้าสำเร็จรูปโดยอาศัยไม้สะดึงนั่นเอง
        เขตกำหนดกฐิน การทอดกฐิน เป็นกาลทาน ตามพระวินัยกำหนดกาลไว้คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสใคร่จะทอดกฐิน ก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ จะทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้ ไม่เป็นการทอดกฐิน แต่มีข้อยกเว้นพิเศษว่าถ้าทายกผู้จะทอดกฐินนั้นมีกิจจำเป็น เช่น จะต้องไปในทัพไม่สามารถจะอยู่ทอดกฐินตามกำหนดนั้นได้จะทอดกฐินก่อนกำหนด  ดังกล่าวแล้วพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุรับไว้ก่อนได้
          การ ทอดกฐิน มีข้อปฏิบัติสำคัญ คือ
1. ระเวลาในการทอดเริ่มตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 จนถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
2. การทอดกฐินเป็นกาลทาน ทำปีละครั้ง (ในช่วงเวลาตามข้อ 1 )
3. วัดที่จะถวายกฐิน จะต้องมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาตลอดไตรมาส  จำนวน 5 รูปขึ้นไป
4. เครื่องทอดกฐินประกอบด้วย ผ้ากฐิน (พระไตรจีวร) และเครื่องบริวารต่าง ๆ โดยมากเป็นของใช้สอยอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับพระภิกษุสงฆ์
หลัก ธรรมหรือคติธรรมที่เกี่ยวเนื่องในเทศกาลสำคัญ
          เทศกาล สำคัญดังกล่าวข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลเข้าพรรษา เทศกาลออกพรรษา เทศกาลวันสารท หรือเทศกาลลอยกระทง เป็นเทศกาลที่สะท้อนให้เห็นหลักธรรมหรือคติธรรมทางพระ พุทธศาสนาหลายประการ เช่น ความอดทน ความเสียสละ ความสามัคคี ความกตัญญูกตเวที ความมีน้ำใจ ความเมตตากรุณา เป็นต้น